ที่มาของปัญหา
ชนวนของระเบิดเวลาลูกที่ชื่อ
Y2K
ถูกจุดมาตั้งแต่เริ่มมีการใช้คอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรก
เมื่อปี ค.ศ. 1980
เพื่อบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวกับวันเวลา
ซึ่งภายในระบบคอมพิวเตอร์
ก็จะมีการเก็บข้อมูลโดยใช้เลข 2
ตำแหน่งแทนในส่วนของปี คือ
อยู่ในรูปแบบ YY-MM-DD โดยตีความว่า
ตัวเลข 2 ตำแหน่งแรก
ที่แทนปีคริสตศักราช
ซึ่งถูกละไว้เป็น 19 เช่น 74
จะแทนด้วยปี 1974
ด้วยเหตุผลจากการที่สมัยนั้น
ราคาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลมีราคาแพงมาก
การเก็บข้อมูลแบบย่อ
จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายขององค์กรไปได้มาก
ถึงแม้ว่าในเชิงเทคนิคแล้ว
การจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบดังกล่าว
จะลดขนาดข้อมูลลงได้เพียง 2
Byte/transaction เท่านั้น
แต่เนื่องจากแต่ละองค์กรจะมี
transaction ในแต่ละวันอยู่มากมาย
เมื่อมองภาพรวม
จึงลดปริมาณเนื้อที่จัดเก็บไปได้มาก
ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาคอมไพเลอร์ตัวแรก คือโคบอลขึ้นมา รูปแบบวันที่ที่ใช้ในโคบอลก็เป็น YY-MM-DD ซึ่งในยุคแรกมีผู้เขียนโคบอลถึง 900,000 คน และทั่วโลกมีการใช้โปรแกรมโคบอลถึง 180,000 ล้านบรรทัดโค้ด จากนั้นเป็นต้นมา รูปแบบนี้ก็กลายเป็นมาตรฐานที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เพื่อใช้ในธุรกิจมาโดยตลอด รวมทั้งการป้อนข้อมูลที่เป็นปี ก็จะใช้วิธีการป้อนเพียง 2 ตำแหน่ง อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากความเคยชินด้วยประการหนึ่ง ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องของการตีความ เนื่องจากลอจิกในการคิดของคนเรา แตกต่างจากการคิดของสิ่งประดิษฐ์ เราสามารถแยกแยะความหมายของรูปแบบที่แสดง เพราะดูส่วนประกอบของข้อความแวดล้อม เช่น ถ้าเรากล่าวว่า เราจะทำประกันชีวิตก่อนปี 16 คนอื่นๆ ที่ได้ยินจะเข้าใจทันที ว่าหมายถึงปี 2016 แต่ระบบคอมพิวเตอร์ยังไม่ฉลาดพอที่จะตีความได้ขนาดนั้น เนื่องจากในโลกของคอมพิวเตอร์นั้น ทุกอย่างมีเพียงจริงหรือเท็จ และเป็นไปตามโปรแกรมที่กำหนดไว้เท่านั้น ดังนั้น ปัญหาปี 2000 จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็น "การขาดความสามารถของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ไม่อาจตีความปีที่แทนด้วยเลข 2 ตำแหน่งหลังปี 1999 อย่างถูกต้อง"
|